จากการที่ผมมีประสบการณ์ทางด้านเครื่องจักร CNC มานาน เจอลูกค้ามามากมาย เลยได้ฟังประสบการณ์ของลูกค้า เลยมีข้อคิดเกี่ยวกับการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องจักร ว่าจะต้องพิจารณาอะไรบ้าง
1. ผู้ขาย
ก่อนอื่นเราจะต้องพิจารณาตัวผู้ขาย บริษัทผู้ขายว่าเป็นอย่างไรบ้าง เคยมีลูกค้าหลายๆคนตัดสินใจการซื้อจากการดูในอินเตอร์เน็ต โดยดูจากหน้าเว็ป บางบริษัทมีการทำเว็ปที่หน้าเชื่อถือมากๆ สุดท้ายก็ผิดหวังเพราะของจริงกับในอินเตอร์เน็ตไม่เหมือนกัน
การดูบริษัท ง่ายที่สุดก็คือไปเยี่ยมชมถึงที่ ดูว่ามีบุคลากรไหม , มีเครื่องจักรไหม บางบริษัทมีแต่แคตตาล็อคอย่างเดียวไม่มีเครื่องเลย นอกจากนี้เราจะต้องพยายามถามรายละเอียดมากๆที่เกี่ยวข้องกับงานของเรา ว่าเครื่องจักรสามารถทำได้ไหม ถ้าให้ดีที่สุดก็คือ ให้ลองทำตัวอย่าง บางบริษัทจะพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ให้มา หรือไม่ยอมทำตัวอย่างให้ นอกจากนี้เราควรสังเกตุว่าผู้ขายมีความรู้ไหม เหตุผลที่เราต้องเช็คระเอียดเนื่องจาก เครื่องจักร CNC จะมีความซับซ้อนกว่าเครื่องจักรทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง CAD/CAM, ไฟฟ้า, เครื่องกล ต่างๆ ถ้าผู้ขายไม่มีความชำนาญแล้ว ปัญหาตามมาเมื่อเราซื้อเครื่องไปแล้ว ทางผู้ขายอาจจะไม่สามารถช่วยเหลือเราได้
2. ทีมบริการหลังการขาย
เราจะต้องพิจารณาด้วยว่า ทางผู้ขายมีทีมบริการหลังการขายไหม มีบางบริษัทไม่มีทีมบริการหลังการขาย หรือมีก็น้อย หรือคุณภาพของช่างไม่ดีพอ เวลาแจ้งเครื่องเสียแล้วใช้เวลากี่วันกว่าจะมา บางบริษัทใช้ช่างจากต่างประเทศก็มี กว่าจะคุยกันรู้เรื่องก็ผ่านไปเป็นอาทิตย์ ผมเคยเจอลูกค้าซื้อเครื่องจากอีกที่หนึ่ง ตัวคลัปปลิ้ง (Coupling) คือตัวที่เชื่อระหว่างสเต็ปปิ้งมอเตอร์ (Stepping motor) กับ บอลสกรู (Ball screw) ขาด ทั้งๆที่ใช้งานไม่ถึงสองเดือน ปรากฎว่าผู้ขายบอกให้ลูกค้ากลึงเหล็กมาใช้เอง เพราะถ้าจะรออะหลั่ยต้องรออย่างน้อย 3 สัปดาห์ หรือบางครั้งลูกค้าเจออาการแปลกๆ ทางผู้ขายไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งงาน CNC มักจะเจอปัญหาแปลกๆ บ่อยๆ
วิธีง่ายๆที่จะดูทีมหลังการขาย ก็คือไปเยี่ยมชมบริษัท และดูว่ามีทีมช่างอยู่ไหม บางบริษัทก็ใช้วิธีจ้างช่างข้างนอกมา ข้อเสียของพวกนี้ก็คือ มาช้าและจะต้องเสียค่าบริการถึงแม้จะอยู่ในช่วงรับประกันก็ตาม
นอกจากที่เราสนใจในเรื่องการบริการเกี่ยวกับเครื่องจักรแล้ว เรายังต้องดูว่าผู้ขายสามารถให้บริการทางด้านโปรแกรมไหม เช่น การทำ CAD ไฟล์ การทำ CAM ต่างๆ ปัญหาของลูกค้าที่ผมเจอบ่อยๆ ก็คือ ช่างประจำเครื่อง หรือ ผู้ใช้งานลาออกบ่อยๆ ทางผู้ขายสามารถที่จะช่วยเหลือลูกค้าได้หรือไม่ คิดราคาแพงไหม?
3. เครื่องจักร, ราคา
การพิจารณาเครื่องจักร และราคา เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าผ่านข้อ 1 และ 2 มาได้ การพิจารณาเครื่องจักรมีหลักเกณฑ์กว้างดังนี้
3.1 ดูพื้นที่การทำงาน สามารถทำงานครอบครุมงานของเราไหม
3.2 ดูความเร็วในการทำงาน สามารถทำงานให้เราตามที่เราต้องการไหม เช่น ทำได้วันละกี่ชิ้น
3.3 ดูความถูกต้องแม่นยำของเครื่องจักร ทดสอบง่ายด้วยการกัดงานตัวอย่าง หรือ ทำตามที่ผมเคยเขียนใ้ในบล็อคก่อนหน้า
http://spar-cnc.blogspot.com/2012/05/spec-cnc-router-cnc-engraving.html
3.4 ดูความแข็งแรงทนทานของเครื่องจักร เวลาทำงานเครื่องจักรมีการสั่นไหม หรือดูโครงสร้างว่าแข็งแรงเพียงใด หลายท่านอาจจะไม่ทราบว่าเรื่องได้สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้ามามากแล้ว และดูยากด้วย เพราะถ้าเครื่องไม่แข็งแรง เวลาทำงานเครื่องสั่นสะท้าน จะทำให้ดอกกัดหักง่าย ลูกค้าผมเคยเจอบางเครื่องกัดงานได้ไม่กี่ชิ้นดอกก็หัก ทางผู้ขายก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เนื่องจากเป็นปัญหาทางโครงสร้าง บางครั้งผู้ขายก็จะไปโทษคุณภาพของดอกไม่ดี เป็นต้น ก็จะมีปัญหาทะเลาะกันไม่รู้จบ
3.5 ดูความเรียบร้อยของงานไฟฟ้า
บางครั้งดูจากภายนอกอาจจะดูดี แต่พอเปิดดูสายไฟภายใน เราจะเห็นความเรียบร้อยต่างๆ ทำไมเราต้องดู เหตุผลก็คือ ถ้าสายไฟเดินเรียบร้อย การซ่อมแซมก็จะง่าย แต่ถ้าสายไฟไม่เป็นระเบียบบ่งบอกให้รู้ว่า ในอนาคตการดูแลรักษาจะยาก นอกจากนี้เราอาจจะเจอปัญหาบางอย่างที่มาจากสายไฟ เช่นสายหักใน ขั้วต่อไม่ดี ซึ่งลักษณะนี้เครื่องจะมีอาการเป็นๆหายๆ ซึ่งทำให้การซ่อมแซมยาก
ตัวอย่างการเดินสายไฟในตู้จะมีการเก็บสายไฟให้เรียบร้อย |
3.5 ดูราคา เรื่องนี้ลูกค้ามักจะเก่งอยู่แล้ว
4. ลูกค้าอ้างอิง
พยายามขอรายชื่อลูกค้าอ้างอิง ว่าเคยขายให้ที่ไหนบ้าง นานแล้วยัง ลูกค้าที่ซื้อไปแล้วมีการสั่งเครื่องเพิ่ม (Repeat order) ไหม ข้อนี้สำคัญมากๆ เพราะ ถ้าลูกค้าสามารถซื้อซ้ำๆ ได้แสดงถึงความมั่นใจต่อผู้ขาย มีบางเว็ปอ้างว่าสามารถขาย Mini CNC ได้มากที่สุดในประเทศ แต่ไม่มีรายชื่อลูกค้าแม้แต่รายเดียว ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ
จุดประสงค์ของบทความนี้ื ผมอยากให้ลูกค้าได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการเลื่อกซื้อเครื่องจักร เพราะการซื้อเครื่องจักร CNC เป็นเรื่องต้องมีความรอบคอบพอสมควร ก่อนซื้อต้องพยายามศึกษาหาข้อมูลก่อน และต้องตั้งคำถามกับตัวเองด้วยว่า มีความพร้อมแคไหนที่จะใช้ เพราะต้องมีความรู้ในเรื่องของงานออกแบบ (CAD) บุคคลากรที่จะมาคุมเครื่อง เป็นต้น
สมภพ 08-1565-1166
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่
บริษัท สปาร์แมคคาทรอนิคส์ จำกัด
27/11 หมู่ 3 ถนนเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ นาดี เมืองสมุทรสาคร สมุทรสาคร 74000
โทร. 0-3446-6429 โทรสาร 0-3446-6428
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น