บทความที่ได้รับความนิยม

ค้นหาบล็อกนี้

Spar Mechatronics Co.,Ltd

บริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องจักร CNC Engarving/router/plasma/milling/lathe machine มาตั้งแต่ปี พศ. 2542 ผลิตเครื่องไปแล้วไม่น้อยกว่า 400 เครื่อง มีทั้งเครื่องขนาดเล็กพื้นที่ทำงานตั้งแต่ 300x300 มม. ไปจนถึง 1500x8000 มม. ทั้งแบบ 3 แกน 4 แกน และปัจจุบันกำลังพัฒนาเครื่องแบบ 5 แกนโดยการร่วมมือกับ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (Asian Institute of Technology (AIT)) ซึ่งคาดว่าจะเสร็จในต้นปีพศ. 2552

เรามีทีมวิศวการที่มีความชำนาญมากว่า 10 ปี ทั้งการออกแบบ การบริการหลังการขาย (After sale service) และให้ตำปรึกษาเกี่ยวกับการออกแบบเครื่องจักร CNC เฉพาะงาน (Custom made CNC) ต่างๆให้เหมาะสมกับงานของท่าน

ท่านสามารถดูรูปเครื่องต่างๆของบริษัท ซึ่งทางบริษัทได้ผลิตออกมาอย่างยาวนาน เป็นรูปที่ไม่มีการตัดต่อ หรือตกแต่งใดๆทั้งสิ้น เพื่อเป็นการยืนยันว่า บริษัท สปาร์ แมคคาทรอนิคส์ จำกัด เป็นผู้นำทางด้าน CNC ของประเทศไทย อย่างแท้จริง ได้ที่ www.picasaweb.google.co.th/sparmec

วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

การเลือกซื้อเครื่องจักร ซี เอ็น ซี เร้าเตอร์ และ แกะสลัก (CNC Router,CNC Engraving)




จากการที่ผมมีประสบการณ์ทางด้านเครื่องจักร CNC มานาน เจอลูกค้ามามากมาย เลยได้ฟังประสบการณ์ของลูกค้า เลยมีข้อคิดเกี่ยวกับการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องจักร ว่าจะต้องพิจารณาอะไรบ้าง
1. ผู้ขาย
ก่อนอื่นเราจะต้องพิจารณาตัวผู้ขาย บริษัทผู้ขายว่าเป็นอย่างไรบ้าง เคยมีลูกค้าหลายๆคนตัดสินใจการซื้อจากการดูในอินเตอร์เน็ต โดยดูจากหน้าเว็ป บางบริษัทมีการทำเว็ปที่หน้าเชื่อถือมากๆ  สุดท้ายก็ผิดหวังเพราะของจริงกับในอินเตอร์เน็ตไม่เหมือนกัน
การดูบริษัท ง่ายที่สุดก็คือไปเยี่ยมชมถึงที่ ดูว่ามีบุคลากรไหม , มีเครื่องจักรไหม บางบริษัทมีแต่แคตตาล็อคอย่างเดียวไม่มีเครื่องเลย นอกจากนี้เราจะต้องพยายามถามรายละเอียดมากๆที่เกี่ยวข้องกับงานของเรา ว่าเครื่องจักรสามารถทำได้ไหม ถ้าให้ดีที่สุดก็คือ ให้ลองทำตัวอย่าง บางบริษัทจะพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ให้มา หรือไม่ยอมทำตัวอย่างให้ นอกจากนี้เราควรสังเกตุว่าผู้ขายมีความรู้ไหม เหตุผลที่เราต้องเช็คระเอียดเนื่องจาก เครื่องจักร CNC จะมีความซับซ้อนกว่าเครื่องจักรทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง CAD/CAM, ไฟฟ้า, เครื่องกล ต่างๆ ถ้าผู้ขายไม่มีความชำนาญแล้ว ปัญหาตามมาเมื่อเราซื้อเครื่องไปแล้ว ทางผู้ขายอาจจะไม่สามารถช่วยเหลือเราได้

2. ทีมบริการหลังการขาย
เราจะต้องพิจารณาด้วยว่า ทางผู้ขายมีทีมบริการหลังการขายไหม มีบางบริษัทไม่มีทีมบริการหลังการขาย หรือมีก็น้อย หรือคุณภาพของช่างไม่ดีพอ เวลาแจ้งเครื่องเสียแล้วใช้เวลากี่วันกว่าจะมา บางบริษัทใช้ช่างจากต่างประเทศก็มี กว่าจะคุยกันรู้เรื่องก็ผ่านไปเป็นอาทิตย์ ผมเคยเจอลูกค้าซื้อเครื่องจากอีกที่หนึ่ง ตัวคลัปปลิ้ง (Coupling) คือตัวที่เชื่อระหว่างสเต็ปปิ้งมอเตอร์​ (Stepping motor) กับ บอลสกรู (Ball screw) ขาด ทั้งๆที่ใช้งานไม่ถึงสองเดือน ปรากฎว่าผู้ขายบอกให้ลูกค้ากลึงเหล็กมาใช้เอง เพราะถ้าจะรออะหลั่ยต้องรออย่างน้อย 3 สัปดาห์ หรือบางครั้งลูกค้าเจออาการแปลกๆ ทางผู้ขายไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งงาน CNC มักจะเจอปัญหาแปลกๆ บ่อยๆ

วิธีง่ายๆที่จะดูทีมหลังการขาย ก็คือไปเยี่ยมชมบริษัท และดูว่ามีทีมช่างอยู่ไหม บางบริษัทก็ใช้วิธีจ้างช่างข้างนอกมา ข้อเสียของพวกนี้ก็คือ มาช้าและจะต้องเสียค่าบริการถึงแม้จะอยู่ในช่วงรับประกันก็ตาม

นอกจากที่เราสนใจในเรื่องการบริการเกี่ยวกับเครื่องจักรแล้ว เรายังต้องดูว่าผู้ขายสามารถให้บริการทางด้านโปรแกรมไหม เช่น การทำ CAD ไฟล์ การทำ CAM ต่างๆ ปัญหาของลูกค้าที่ผมเจอบ่อยๆ ก็คือ ช่างประจำเครื่อง หรือ ผู้ใช้งานลาออกบ่อยๆ ทางผู้ขายสามารถที่จะช่วยเหลือลูกค้าได้หรือไม่ คิดราคาแพงไหม?

3. เครื่องจักร, ราคา
การพิจารณาเครื่องจักร และราคา เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าผ่านข้อ 1 และ 2 มาได้ การพิจารณาเครื่องจักรมีหลักเกณฑ์กว้างดังนี้
3.1 ดูพื้นที่การทำงาน สามารถทำงานครอบครุมงานของเราไหม
 3.2 ดูความเร็วในการทำงาน สามารถทำงานให้เราตามที่เราต้องการไหม เช่น ทำได้วันละกี่ชิ้น
3.3 ดูความถูกต้องแม่นยำของเครื่องจักร ทดสอบง่ายด้วยการกัดงานตัวอย่าง หรือ ทำตามที่ผมเคยเขียนใ้ในบล็อคก่อนหน้า
http://spar-cnc.blogspot.com/2012/05/spec-cnc-router-cnc-engraving.html

3.4 ดูความแข็งแรงทนทานของเครื่องจักร เวลาทำงานเครื่องจักรมีการสั่นไหม หรือดูโครงสร้างว่าแข็งแรงเพียงใด หลายท่านอาจจะไม่ทราบว่าเรื่องได้สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้ามามากแล้ว และดูยากด้วย เพราะถ้าเครื่องไม่แข็งแรง เวลาทำงานเครื่องสั่นสะท้าน จะทำให้ดอกกัดหักง่าย ลูกค้าผมเคยเจอบางเครื่องกัดงานได้ไม่กี่ชิ้นดอกก็หัก ทางผู้ขายก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เนื่องจากเป็นปัญหาทางโครงสร้าง บางครั้งผู้ขายก็จะไปโทษคุณภาพของดอกไม่ดี เป็นต้น ก็จะมีปัญหาทะเลาะกันไม่รู้จบ
3.5 ดูความเรียบร้อยของงานไฟฟ้า
บางครั้งดูจากภายนอกอาจจะดูดี แต่พอเปิดดูสายไฟภายใน เราจะเห็นความเรียบร้อยต่างๆ ทำไมเราต้องดู เหตุผลก็คือ ถ้าสายไฟเดินเรียบร้อย การซ่อมแซมก็จะง่าย แต่ถ้าสายไฟไม่เป็นระเบียบบ่งบอกให้รู้ว่า ในอนาคตการดูแลรักษาจะยาก นอกจากนี้เราอาจจะเจอปัญหาบางอย่างที่มาจากสายไฟ เช่นสายหักใน ขั้วต่อไม่ดี ซึ่งลักษณะนี้เครื่องจะมีอาการเป็นๆหายๆ ซึ่งทำให้การซ่อมแซมยาก

ตัวอย่างการเดินสายไฟในตู้จะมีการเก็บสายไฟให้เรียบร้อย
 

3.5 ดูราคา เรื่องนี้ลูกค้ามักจะเก่งอยู่แล้ว

4. ลูกค้าอ้างอิง
พยายามขอรายชื่อลูกค้าอ้างอิง ว่าเคยขายให้ที่ไหนบ้าง นานแล้วยัง ลูกค้าที่ซื้อไปแล้วมีการสั่งเครื่องเพิ่ม (Repeat order) ไหม ข้อนี้สำคัญมากๆ เพราะ ถ้าลูกค้าสามารถซื้อซ้ำๆ ได้แสดงถึงความมั่นใจต่อผู้ขาย มีบางเว็ปอ้างว่าสามารถขาย Mini CNC ได้มากที่สุดในประเทศ แต่ไม่มีรายชื่อลูกค้าแม้แต่รายเดียว ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ

จุดประสงค์ของบทความนี้ื ผมอยากให้ลูกค้าได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการเลื่อกซื้อเครื่องจักร เพราะการซื้อเครื่องจักร CNC เป็นเรื่องต้องมีความรอบคอบพอสมควร ก่อนซื้อต้องพยายามศึกษาหาข้อมูลก่อน และต้องตั้งคำถามกับตัวเองด้วยว่า มีความพร้อมแคไหนที่จะใช้ เพราะต้องมีความรู้ในเรื่องของงานออกแบบ (CAD) บุคคลากรที่จะมาคุมเครื่อง เป็นต้น

สมภพ 08-1565-1166
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่
บริษัท สปาร์​แมคคาทรอนิคส์ จำกัด
27/11 หมู่ 3 ถนนเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ นาดี เมืองสมุทรสาคร สมุทรสาคร 74000
โทร. 0-3446-6429 โทรสาร 0-3446-6428

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น